03 กันยายน 2564

ฟักทอง ชนิดและประเภทของฟักทอง และวิธีปลูกแบบง่ายๆ ปลูกฟักทองอินทรีย์

 


ฟักทอง เป็นพืชล้มลุก เป็นไม้เถา ลักษณะเลื้อย เป็นพืชตะกูลแตง

มีอายุได้มากที่สุด 1 ประมาณ 1 ปี และเป็นผักสวนครัวที่สำคัญมากๆ เพราะเป็นแหล่งอาหารที่มีประโยชน์ และฟักทองก็มีรสชาติที่อร่อย รสหวาน มัน และเหนียวนุ่มอร่อย เอามาทำได้ทั้ง อาหารคาว และอาหารหวาน สามารถเก็บเอาไว้ทำอาหารได้นานอีกด้วย

วันนี้เราจะแนะนำตั้งแต่ ชนิดพันธุ์ วิธีปลูก วิธีการเก็บเกี่ยว และการเก็บดูแลให้เก็บได้นานค่ะ


ฟักทองพันธุ์หนัก ใช้เวลา ประมาณ 60-70 วัน

มีขนาดใหญ่ที่สุด สีเขียวเข้ม สีเหลืองส้ม สีเหลืองทอง สีเขียวดำ ลักษณะผิวด้านนอก มี 2 แบบขรุขระและผิวเรียบบาง พันธุ์อาจจะมีลวดลายสีเหลือง สีเขียวอ่อน หรือสีขาว แซมอยู่ ผลใหญ่ น้ำหนักประมาณ 5-10 กิโลกรัม ผลกลม ยาว หรือผลแป้น เนื้อหนาสีเหลืองเข้ม  และสีเหลืองอมเขียว รสชาติหวาน มัน และเหนียว 

เช่น พันธุ์ลูกใหญ่สีส้มของยุโรป ฟักทองฮาโลวีน ฟักทองพันธุ์คางคกของไทย




ฟักทองพันธุ์เบา ใช้เวลา ประมาณ  50-60 วัน

ผลขนาดกลาง น้ำหนักต่อผลประมาณ 2-4 กิโลกรัม ผลมีลักษณะ ทรงกลม ทรงยาวหรือ ทรงแป้น เป็นพู เนื้อหนาสีเหลือง สีเหลืองส้มอมเขียว  และสีเหลืองอมส้มสีทอง  รสชาติหวาน มัน และเหนียว 

เช่น พันธุ์ ฟักทองญี่ปุ่น แบบลูกกลาง พันธุ์ธรรมดา ฟักทองคอนกกระเรียน ทรงยาวเรียว ฟักทองพันธุ์ทางคกพันลูกกลาง/เล็ก






ฟักทองพันธุ์เล็ก ใช้เวลา ประมาณ  45-60 วัน

       ขนาดจะเล็ก น้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 0.8-1.5 กิโลกรัม รูปทรงของผลมี 2 แบบ เป็นทรงแป้น และ ทรงกลม เนื้อสีเหลืองอมเขียว หรือสีเหลืองอมทอง ปัจจุบันมีการพัฒนา ให้มีหลายสี เช่น สีขาว สีเหลือง สีส้ม สีทอง สีเขียว สีเขียวอมดำ รสชาติ หวาน มัน และเหนียว

เช่น พันธุ์ฟักทองญี่ปุ่นมินิ ฟักทองแฟนซี 



ส่วนการปลูก แนะนำวิธีปลูกแบบอินทรีย์ ปลูกแบบปลอดสาร ซึ่งมีวิธีปลูกแบบง่ายๆดั้งนี้

ปลูกฟักทองแบบล้อยฟ้า
การปลูกฟักทองแบบล้อยฟ้า จะนิยมปลูกมากเพราะดูแลง่าย และดูสวยงาม
วิธีนีปลูกได้ทั้งแบบแปลง และแบบในกระถาง

การปลูกในกระถางทำได้ง่ายๆดังนี้


เทคนิคการปลูกฟักทองในกระถางให้ประสบผลสำเร็จคือ
ต้องเลือกกระถางที่มีขนาดใหญ่ ประมาณ ซัก 10 นิ้วขึ้นไป
ดินต้องมีการระบายน้ำได้ดี มีอินทรย์วัตถุสูงๆ
แนะนำเป็นปุ๋ยคอก กับดินปลูก อย่างละ 50/50 หรือจะเป็นดินผสมพร้อมปลูกก็ได้
และต้องมีการทำค้างที่มั่นคงแข็งแรง ให้รับน้ำหนักของฟักทองได้ ไม่หักหรือพังในขณะที่ฟักทองเจริญเติบโตอยู่

การปลูกลอยฟ้าแบบแปลง
เริ่มจาการเตรียมดินปลูก

รับชมวิธีเตรียมดินปลูกแบบละเอียด



ในขั้นตอนเตรียมดิน จะเพาะเมล็ดในกระถางเพาะต้นกล้ารอ ก็ได้จะได้ไม่เสียเวลา
หรือจะหยอดเมล็ดในตอนที่เตรียมดินปลูกเสร็จก็ได้เช่นกัน

เมื่อต้นกล้าเริ่มโต มีใบจริงซัก 5-7ใบ ก็เริ่มให้ปุ๋ย และสารไล่แมลง

การให้ปุ๋ย น้ำ สารไล่แมลง อยู่เป็นประจำ จะทำให้ได้ผลดี ต้นโตเร็ว

สามารดูสูตรปุ๋ย และสารไล่แมลง ทำเองได้ ตามลิงค์นี้ค่ะ
👇ชมคลิปเต็ม ได้ที่นี้ 👇
                                      วิธีทำปุ๋ยน้ำฮอร์โมนไข่
                                      วิธีทำปุ๋ยน้ำนมสด
                                      วิธีทำปุ๋ยน้ำซาวข้าว
                                      วิธีใช้ปุ๋ยน้ำชนิดต่างๆ



👇👇👇ชมคลิปการปลูกฟักทองล้อยฟ้า ได้ที่นี้ 👇👇👇

ปลูกแบบเลื้อยตามดิน
วิธีการปลูกแบบเลื้อยตามดินแบบนี้ สะดวกตรงที่ไม่ต้องทำค้าง นิยมปลูกกับฟักทองพันธุ์หนัก พันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก 

หลังจากเตรียมแปลง ก็จะหยอดเมล็ด หรือลงต้นกล้าพร้อมปลูก ให้มีความห่างก้น ต่อแถว ประมาณ 3-5 เมตร ห่างต่อต้น1-2 เมตร

 เมื่อต้นกล้าเริ่มโต มีใบจริงซัก 5-7ใบ ก็เริ่มให้ปุ๋ย และสารไล่แมลง

การให้ปุ๋ย น้ำ สารไล่แมลง อยู่เป็นประจำ จะทำให้ได้ผลดี ต้นโตเร็ว

สามารดูสูตรปุ๋ย และสารไล่แมลง ทำเองได้ ตามลิงค์นี้ค่ะ
👇ชมคลิปเต็ม ได้ที่นี้ 👇
                                      วิธีทำปุ๋ยน้ำฮอร์โมนไข่
                                      วิธีทำปุ๋ยน้ำนมสด
                                      วิธีทำปุ๋ยน้ำซาวข้าว
                                      วิธีใช้ปุ๋ยน้ำชนิดต่างๆ

รอให้ถึงเวลาเก็บเกียวก็สามารถเก็บได้ ผลแก่สามารถเก็บไว้ได้ 6 เดือน ถึง 1 ปี

วิธีดูผลแก่ อ่อน ดูได้ง่ายๆ
👇ชมคลิปเต็ม ได้ที่นี้ 👇

หากคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ และชอบหรือถูกใจ
 👇สามารถร่วมสนับสนุน แม่ก้อยได้นะคะ 👇
Thank you so much for your support . 

                https://ko-fi.com/E1E45YUDI      

          🙏โดเนทเลี้ยงกาแฟ🙏

ขอบคุณที่รวมสนับสนุนในช่องทางต่างๆเสมอมาค่ะ


สนใจสั่งซื้อต้นผักสวนครัวทางร้านค้าออนไลน์

👇👇👇ได้ที่ลิงค์ด้านล่างค่ะ👇👇👇

ร้านค้าออนไลน์  สั่งของได้ ชั่วโมง ราคาถูก มีโปรโมชั่น

 มีบริการเก็บปลายทาง

🍀ต้นกล้าผักพร้อมปลูก ต้นกล้าผักสวนครัว ราคาถูก

มีหลายแบบให้เลือก ส่งถึงหน้าบ้าน


29 สิงหาคม 2564

ปลูกแตงกวาญี่ปุ่น แบบคนญี่ปุ่น ให้มีแตงกวากินไม่ขาดช่วง มีกินได้ตลอดปี ผลผลิตเยอะ





วิธีทำให้แตงกวาญี่ปุ่น มีลูก มีผล ตลอดไม่ขาดช่วง
ทำได้ง่ายๆ แค่รู้เทคนิคเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ


ก่อนจะรู้เทคนิคการทำแตงกวาให้ดกตลอดปี เราไปดูวิธีการปลูกแบบเบื้องต้นก่อนค่ะ
เริ่มแรกคือการเตรียมแปลง/กระถางปลูกก่อน



แตงกว่าญี่ปุ่น เราสามารถปลูกได้ทั้งแบบ คือ ปลูกในแปลง ปลูกในกระถางก็ได้
สำหรับปลูกในกระถาง จะมีวิธีการแบบละเอียดสามารถรับชมได้ในยูทูปค่ะ

👇ชมคลิปเต็ม ได้ที่นี้ 👇


วิธีปลูก  เริ่มจากการเตรียมแปลงกันก่อน    
ในขั้นตอนการเตรียมแปลงจะต้องทำอย่างน้อย 1-2 อาทิตย์โดยเริ่มจากจัดการวัชพืชออก จากนั้นพรวนดินให้ร่วนซุย แล้วตากดิน ทิ้งไว้ 

ขั้นตอนสุดท้าย ใส่ปุ๋ย และปูนขาว ทิ้งไว้อีก 1 อาทิตย์(ปูนขาวจะมีสองแบบค่ะ แบบที่ต้องทิ้งไว้แล้วใช้ได้ 
กับแบบราคาแพงหน่อย ผสมแล้วใช้ได้ทันทีค่ะ)

👇👇👇ชมคลิปเต็ม ได้ที่นี้ 👇👇👇

ในระหว่างที่รอการเตรียมดิน การเพาะต้นกล้าก็สำคัญค่ะ 
เราสามารถเพาะต้นกล้าได้โดยไม่ต้องรอการเตรียมดินเสร็จก่อน 

👇ชมคลิปเต็ม ได้ที่นี้ 👇



หรือถ้าใครไม่รีบสามารถ รอให้ขั้นตอนการเตรียมดินปลูก เสร็จแล้วค่อยทำการหยอดเมล็ด
โดยตรงที่แปลงก็ได้ค่ะ

วิธีการหยอดเมล็ดแตงกวา ทำได้ดังนี้ค่ะ

เตรียมดินให้หน้าดินลึกร่วนโปร่ง ในดินทรายขุดหลุมให้มีความกว้างยาว
ประมาณ 50 เซนติเมตร 
ลึกประมาณ 15 เซนติเมตร ส่วนในดินเหนียวขุดหลุมให้ลึกประมาณ 10 เซนติเมตร 
ระยะปลูก ใช้ระยะปลูก 90 เซนติเมตร x 2-3 เมตร

ใช้ปุ๋ยคอกที่ละเอียดคลุกเคล้ากับดินบน ใส่รองก้นหลุม หลุมละ 4-5 ลิตร 
เตรียมหลุมทิ้งไว้ 1 วัน 
แล้วจึงลงมือปลูก หยอดหลุมละ 3-5 เมล็ด เมื่อหยอดเมล็ดแล้วต้องรดน้ำให้ชุ่มเมื่อแตงโมขึ้นมา มีใบจริง 2-3 ใบ ถอนแยกให้เหลือหลุมละ 1 -3 ต้น 
โดยคัดเลือกเอาแต่ต้นแข็งแรงไว้


แตงกวาญี่ปุ่น เป็นพืชระยะสั้น มีการเจริญเติบโตเร็ว
แต่ก็หมดเร็วเช่นกัน ฉนั้น การปลูกให้มีหลายๆรุ้น
ก็เป็นอีกวิธีที่คนญี่ปุ่นใช้กัน เพื่อให้มีแตงกว่ากินตลอดฤดูร้อนนั้นเอง



เคล็ดลับการปลูกแตงกวาให้ดกตลอดปี ของคนญี่ปุ่น วิธีการคือ
เริ่มจากปลูกแตงกวาญี่ปุ่น ค้าง 1
พอแตงกวาญี่ปุ่นเริ่มออกชุดแรก
เริ่มได้กินเยอะแล้ว ก็เริ่มต้น เพาะปลูกค้างที่ 2 ต่อเลย

ไม่รอให้ค้างที่ 1 หมดลูก เพราะจะทำให้ค้างที่ 2 โตไม่ทัน ไม่ต่อเนื่องค่ะ
แล้วพอค้างที่2 เริ่มติดลูก ก็เริ่มค้างที่ 3ได้ ทำเหมือนกันจนกว่าจะถึงปลายเดือน กันยายน คือชุดสุดท้ายค่ะ (ถ้าที่ไทยทำได้ตลอดเลยนะ)

ปลูกแบบแปลง กว้าง 2.5 เมตร
ในการปลูกแต่ละค้าง มีประมาณ 6 ต้น กำลังดี



ปลูกแบบลอยฟ้า ก็ยิ่งดี ดูแลง่าย
แต่ถ้าปลูกแบบเลี้อยตามดินก็ทำได้เช่นกัน
สวนวิธีทำค้าง ก็ทำได้ง่ายๆ มีหลายแบบ

👇ชมคลิปเต็ม ได้ที่นี้ 👇


เคล็ดลับ คือ
การตัดแต่ง ยอดแตงกวา และหมั่นไปผสมเกษรทุกวันค่ะ
เก็บได้ทุกวัน ประมาณ 5-13 ลูก



วิธีการดูแล คือ ดูแลเรื่องการถอนหญ้า วัชพืช ใส่ปุ๋ยทุกอาทิตย์
และใช้สารไล่แมลง กำจัดแมลงชีวภาพทำเองร่วมด้วยค่ะ

ปุ๋ยและสารไล่แมลง ทำเอง เราก็มีสูตรมาแจกค่ะ
สามารถเลือกดูได้ตามใจชอบ
แต่ที่แนะนำ จัดว่าเด็ดคือ จุลินทรีย์สังเคาะห์แสง และฮอร์โมนไข่
สำหรับพืชที่มีผลแบบนี้ ดกกินไม่ทัน ดีเวอร์ แนะนำค่ะ

เพราะเป็นพืชระยะสั้น ผลผลิตจะเยอะมาก
เราสามารถ ลดจำนวนต้น การปลูกลงได้แล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละบ้าน แต่ละคนค่ะ

พอมีผลผลิตก็จะกินไม่ทัน แนะนำให้ทำการแปลรูป เก็บไว้กิน ฤดูหนาว
หรือจำหน่าย หารายได้เสริม พอได้ค่าน้ำค่าปุ๋ยค่ะ


วิธีนี้ดีมาก แนะนำค่ะ มีแตงกวากินตลอดปีแน่นอน
พอค้างที่1 ผลผลิตเริ่มตก เราก็ได้กิน ค้างที่2 และ3,4,5 ได้พอดีเลยค่ะ

หวังว่าจะมีประโยชน์นะคะ
เทคนิคพิเศษๆ สำหรับคนรักปลูกค่ะ

ปิดท้าย เอาคลิปการเก็บผักสวนครัว มะเขือเทศ แตงกวา ฯลฯ มาฝากค่ะ


หากคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ และชอบหรือถูกใจ
 👇สามารถร่วมสนับสนุน แม่ก้อยได้นะคะ 👇
Thank you so much for your support . 

                https://ko-fi.com/E1E45YUDI      

          🙏โดเนทเลี้ยงกาแฟ🙏

ขอบคุณที่รวมสนับสนุนในช่องทางต่างๆเสมอมาค่ะ


สนใจสั่งซื้อต้นผักสวนครัวทางร้านค้าออนไลน์

👇👇👇ได้ที่ลิงค์ด้านล่างค่ะ👇👇👇

ร้านค้าออนไลน์  สั่งของได้ ชั่วโมง ราคาถูก มีโปรโมชั่น

 มีบริการเก็บปลายทาง

🍀ต้นกล้าผักพร้อมปลูก ต้นกล้าผักสวนครัว ราคาถูก

มีหลายแบบให้เลือก ส่งถึงหน้าบ้าน





วิธีปลูกบร็อคโคลี่ ที่ประเทศไทย ไม่ยากอย่างที่คิด ปลูกให้ได้ดอกใหญ่ดอกโตง่ายนิดเดียว

 


วิธีปลูกบร็อคโคลี่ ในประเทศไทย ไม่ยากอย่างที่คิด

ปลูกให้ได้ดอกใหญ่ ดอกโตวิธีปลูกง่ายนิดเดียวค่ะ

ใครว่าปลูกบร็อคโคลี่ได้แค่ต่างประเทศได้ท่านั้น ความจริงแล้ว บร็อคโคลี่ปลูกได้ทุกประเทศ และทุกฤดูด้วย โดยเฉพาะประเทศไทย



เพราะว่า ตอนนี้มีการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่สามารถปลูกได้ทุกฤดูกาล ทุกสภาพอากาศ ออกมาแล้วนะเออ ประเทศไทยก็เลยปลูกได้หายห่วงค่ะ

ซึ่งสายพันธุ์ใหม่ๆนี้ มีข้อดีมากมาย เช่น สามารถทนร้อน ทนหนาว เละทนฝนได้ดีมากอีกด้วย


บร็อคโคลี่ จะแบ่งออกตามอายุการเก็บเกียว จะมีอยู่ประมาณ 3 แบบ

แบบพันธุ์หนัก อายุเก็บเกี่ยว ประมาณ 90 วัน ขึ้นไป
แบบพันธุ์กลาง (พันธุ์ผสม) อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 60 -70 วัน
แบบพันธุ์เบา อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 45-60 วัน

พันธุ์หนัก จะนิยมปลูกในประเทศที่มี ฤดู และมีอากาศเย็นเป็นเวลานาน
เช่น แถบยุโรป หรือ อเมริกาตอนเหนือ ญี่ปุ่นตอนเหนือ

พันธุ์กลาง คือพันธุ์ที่มีการผสมกันระหว่างพันธุ์หนักและพันธุ์เบา หรือมีการผสมให้มีสีใหม่ๆ
และเพิ่มความต้านทานต่างๆเข้าไปด้วย (แล้วแต่นักวิจัยที่คิดค้นมา) ความต้านทานที่เป็นที่นิยมในช่วงเวลานั้นๆ ทนร้อน ทนหนาว ทนฝน และมีสีแปลกๆสวยงามอีกด้วย เช่น บร็อกโคลี่สีม่วง และสีน้ำเงิน และสามารภปลูกได้ในเมืองร้อนเช่นประเทศไทยได้

พันธุ์เบา คือพันธุ์ที่นิยมปลูกกันมาก เพราะเวลาสั้น และได้ผลดีในอากาศอุ่นถึงร้อน
สำหรับมือใหม่ แนะนำให้ปลูกพันธุ์เบา ที่ปลูกแค่ 45-60 วัน ก็ได้กิน และได้ขายแล้วค่ะ

สำหรับ คนที่อยากจะได้พันธุ์บร็อคโคลี่ มาปลูกดูบ้าง ก็หาพันธุ์ได้ง่ายๆ หาได้จากร้านค้าออนไลน์ หรือสั่งทางเฟส ตอนนี้มีขายทั่วๆไปแล้วค่ะ

สนใจเมล็ดผักบร็อคโคลี่ จากร้านค้าออนไลน์ ดูได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ



เคล็ดลับ วิธีปลูกให้ได้ผลดี

เริ่มต้นจากการเตรียมดิน/ กระถาง สำหรับปลูก

บร็อคโคลี่ สามารถปลูกได้ทั้งแบบแปลง และแบบกระถาง
สำหรับปลูกในกระถาง ควรเป็นกระถางขนาด10 นิ้วขึ้นไป ส่วนดินปลูก แนะนำมือใหม่ใช้ดินผสมพร้อมปลูก จะได้ผลดีมาก

สำหรับปลูกที่แปลง ควรมีการเตียมดินให้พร้อมก่อนปลูก
การเตรียมดินให้ได้ผลดีไม่ทำให้ติดโรคทางดิน ก็คือการอบดินก่อนขั้นตอนการเตรียมดิน
การอบดิน ด้วยความร้อนจากแสงแดด มีความร้อนสูงมากกว่า 60 องศา จะช่วยฆ่าเชื้อโรคทางดิน ที่สะสมใต้ดิน ฆ่าพวกไข่เพลี้ยแมลง เมล็ดหญ้า และไส้เดือนฝอย ฯลฯ


👇👇👇ชมคลิปเต็ม ได้ที่นี้ 👇👇👇

เมื่อทำการอบดินแล้ว ขั้นต่อไปคือการเตรียมดินปลูก 
ให้เอาพลาสติกคลุ่มดินออก แล้วพรวนดินให้ร่วนซุย ผสมปูนขาว ทิ้งไว้ 1-2 อาทิตย์

สำหรับปูนขาวจะมี 2 แบบ แบบธรรมดา ต้องผสมแล้วทิ้งไว้ 1-2 อาทิตย์ กับ แบบพิเศษที่ ผสมแล้วใช้ได้ทันที่ จะราคาแพงหน่อย  
จากนั้นก็ผสมปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก  แล้วผสมให้ปุ๋ยไปอยู่ใต้ดิน จากนั้น ขึ้นแปลงเตรียมปลูกได้



👇👇👇ชมคลิปเต็ม ได้ที่นี้ 👇👇👇

การปลูกบร็อคโคลี่ให้ประสบผลสำเร็จ ต้องใช้ต้นกล้า ที่มีคุณภาพ ต้นโต และแข็งแรง เกษตรกรมืออาชีพนิยมเพาะต้นกล้าก่อนทำการเตรียมแปลง 
สำหรับมือใหม่  หรือปลูกกินเอง จะหลานเมล็ดในแปลงข้างๆก่อนค่อยย้ายลงปลูกในแปลงจริงที่หลังก็ได้
  
👇ชมคลิปเต็ม ได้ที่นี้ 👇

ขั้นต่อไป เอาต้นกล้า มาลงปลูกในแปลง/ กระถาง ที่เตรียม 
เคล็ดลับสำหรับการปลูกในฤดูฝน คือ ปลูกแบบคลุมตาข่ายไว้ตลอด คลุมตั้งแต่ต้นกล้าจนตอนที่ต้นโต ค่อยเอาตาข่ายออก
(ช่วงมีดอกอ่อน) แล้วก็ปล่อยตามธรรมชาติได้เลยค่ะ
แบบนี้จะทนหนอนแมลงได้ และประสบผลสำเร็จแน่นอนค่ะ


สำหรับ ปลูกแบบอินทรีย์ 100% ปุ๋ยที่ใช้ช่วงแรกใช้ปุ๋ยขี้ไก่
พอเริ่มจะออกดอกใช้ปุ๋ยสกัดจากพืชน้ำมัน
รวมกับ ปุ๋ยจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง

นอกจากนี้ยังมีสูตรปุ๋ย และสูตรน้ำยาไล่แมลงทำเองมาแนะนำค่ะ
สามารถใช้สูตรต่างๆ ร่วมกับการดูแลผักให้มีประสิทธิภาพค่ะ

พอประมาณ 40-50 วัน บร็อคโคลี่ (พันธุ์เบา) จะเริ่มออกดอก ให้ดอกมีขนาดใหญ่เท่ากำปั้น ก็สามารถตัดดอกแรกได้ค่ะ ควรตัดในวันที่มีแดด หรือไม่มีฝน เพราะจะทำให้แผลที่ตัดมีการติดเชื้อแบททีเรีย และเน่าได้ อาจจะรามไปทั้วต้น ทำให้เกินเป็นโรคเน่าได้ทั้งแปลงค่ะ

ไม่ควรทิ้งให้ดอกแก่ เหลือง พราะจะทำให้ดอกมีแมลง และไม่น่ารับประทาน ตัดอกแรกแล้ว ไม่ต้องถอนต้นทิ้ง รออีก 1-2อาทิตย์ จะมีแขนงดอก ออกมาอีกหลายรอบ



ชมวิธีปลูกบร็อคโคลี่แบบละเอียด


ชมคลิป เก็บบร็อคโคลี่


วิธีเก็บแขนง บร็อกโคลี่


 
หากคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ และชอบหรือถูกใจ
 👇สามารถร่วมสนับสนุน แม่ก้อยได้นะคะ 👇
Thank you so much for your support . 

                https://ko-fi.com/E1E45YUDI      

          🙏โดเนทเลี้ยงกาแฟ🙏

ขอบคุณที่รวมสนับสนุนในช่องทางต่างๆเสมอมาค่ะ


สนใจสั่งซื้อต้นผักสวนครัวทางร้านค้าออนไลน์

👇👇👇ได้ที่ลิงค์ด้านล่างค่ะ👇👇👇

ร้านค้าออนไลน์  สั่งของได้ ชั่วโมง ราคาถูก มีโปรโมชั่น

 มีบริการเก็บปลายทาง

🍀ต้นกล้าผักพร้อมปลูก ต้นกล้าผักสวนครัว ราคาถูก

มีหลายแบบให้เลือก ส่งถึงหน้าบ้าน